เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.65 พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.,พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1,พ.ต.อ.ณรงค์เวชย์ โอนสูงเนิน รองผบก.ตม.1, พ.ต.ท.ลัทธิศักดิ์ ภูถี่ถ้วน รอง ผกก.1บก.ทล.,พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ รอง.ผกก.1 บก.ทล.พ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.ว่าที่ พ.ต.ท.ชนะ ขำทอง สว.ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.ร.ต.อ.วัชรพล วชิรกุลฑล,ร.ต.อ.เอกชัย ขุมเพ็ชร รอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.ร.ต.ท.ประธาน จตุพันธ์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. ได้ร่วมกันจับกุมนายสัญญา อายุ 22 ปี อยู่ หมู่ 11 ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า จ.ตาก พร้อมด้วยแรงงานต่างด้าวชาย-หญิงสัญชาติเมียนมา จำนวน 14 คน พร้อมของกลางรถยนต์กระบะสีดำติดแผ่นป้ายทะเบียน จ.พิษณุโลก โดยจับกุมได้ที่ กม.46-47ถนนสายเอเซียทล.32 ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา
ด้านพ.ต.ท.ธนศักดิ์ ปราสาททอง สว.ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล. กล่าวว่าสืบเนื่องจาก กก.1 บก.ทล.ได้มีการกวดขันจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายและผู้นำพาในเส้นทางพื้นที่ จ.สิงห์บุรีจ.อ่างทอง,จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี อยู่บ่อยครั้ง พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล.จึงได้สั่งการให้มีการสืบสวนถึงเส้นทางที่มีการลักลอบขนคนต่างด้าวผิดกฎหมายเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน โดยให้ ส.ทล.1 กก.1 บก.ทล.(อยุธยา),ส.ทล.6 กก.1 บก.ทล.(สิงห์บุรี)ร่วมกันสืบสวนและประสานบูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยงานข้างเคียงในพื้นที่รับผิดชอบจนกระทั้งวันนี้(22 ธ.ค.65) เวลาประมาณ 14.50 น.ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สำรวจเส้นทาง ทล.32 สายเอเซีย อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยา พบรถยนต์ต้องสงสัย กระบะขับขี่มาด้วยความเร็ว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนด้านหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงจึงได้ขับติดตามและเรียกรถยนต์คันดังกล่าวให้หยุด แต่รถยนต์คันดังกล่าวไม่ยอมหยุดจอดและพยายามขับขี่หลบหนี ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร จนเกือบเฉี่ยวชนรถยนต์ของชาวบ้านที่สัญจรไปมา และสามารถติดตามสกัดจับกุมได้ที่บริเวณ กม.46-47ถนนสายเอเซียทล.32 ต.ท่าตอ อ.มหาราช จ.พระนครศรีอยุธยาและได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอทำการตรวจสอบพร้อมกับได้แสดงความบริสุทธิ์ใจให้นายสัญญา อายุ 22 ปี(ผู้ต้องหา) เป็นผู้ขับขี่ และพบคนต่างด้าวสัญชาติเมียนมา สอบถามแล้วว่า ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารแทนหนังสือเดินทางนั่งมาในรถคันของกลาง โดยผู้ถูกจับนั่งโดยสารมาในห้องโดยสารของรถยนต์คันดังกล่าว จากการสอบถามนายสัญญา อายุ 22 ปี(ผู้ต้องหา) ให้การยอมรับว่าวันนี้22ธ.ค.2565 เวลาประมาณ 10.00น. ได้รับการประสานจาก ชายไทยชื่อเช้ง(ไม่ทราบชื่อ-นามสกุลจริง) ให้ไปรับแรงงานต่างด้าว จำนวน 14 คน ที่ริมถนน พื้นที่ อ.วังเจ้า จ.ตากเพื่อไปส่งที่ปลายทาง กรุงเทพมหานคร โดยได้ค่าจ้าง จำนวน 28,000บาท โดยตนทราบดีว่าเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และยินยอมที่จะนำพามาส่งที่ปลายทางกรุงเทพมหานคร และรับว่าทำมาแล้ว 2-3 ครั้ง เงินที่ได้จากการขนแรงงานต่างด้าว นำไปเที่ยวและส่วนหนึ่งแบ่งให้รถที่ขับนำทางสอบถามแรงงานต่างด้าวผ่านล่ามแปลภาษาเมียนมา ให้การยอมรับว่า เมื่อประมาณ 21 ธ.ค. 65 ได้ลักลอบเดินทางเข้ามาในประเทศไทยทางช่องทางธรรมชาติและเดินข้ามมา ในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และได้อยู่ในพื้นที่ป่าและที่พักประมาณ 1 วัน ก่อนที่จะออกมาขึ้นรถที่นำพา เพื่อจะเข้ามาหางานทำในประเทศไทย โดยค่าใช้จ่ายไม่ทราบโดยญาติของแรงงานต่าเป็นผู้ติดด้าวต่อนายหน้าฝั่งไทย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหา นายสัญญา อายุ 22 ปี(ผู้ต้องหา) ฐาน “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืนกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใด ๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม” และแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมา14คน“เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” จากนั้นได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางมาทำบันทึกการจับที่ หน่วยบริการตำรวจทางหลวงอ่างทอง และนำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรมหาราช ภ.จว.พระนครศรีอยุธยาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่