เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 5 ส.ค.67 พ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี พ.ต.ท.เสฏฐพงศ์ ทรงกลด รองผกก.สส.สภ.เมืองปทุมธานี พ.ต.ต.สงค์การณ์ สมจิตร สว.สส.สภ.เมืองปทุมธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.เมืองปทุมธานี ได้ร่วมกันจับกุมนายสุดใจ อายุ 51 ปี พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ยี่ห้อโดรนสีน้ำตาลหมายเลขทะเบียน 7ขล 807 กรุงเทพมหานคร ไขควง1 อัน และเสื้อผ้าที่ใส่ในวันเกิดเหตุ โดยจับกุมได้ที่อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งซอยท่าข้าม8แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
ด้านพ.ต.อ.วิวัฒน์ อัศวะวิบูลย์ ผกก.สภ.เมืองปทุมธานี ได้กล่าวว่าวันที่ 4 สิงหาคม 2567 เวลาประมาณ ได้ทนายความซึ่งได้รับมอบอำนาจจากวัดชินวราราม ต.บางแขยง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ให้มาแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองปทุมธานีได้มีคนร้ายเป็นชายไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ใช้รถจักรยานยนต์ เป็นพาหนะ ได้ขับรถมาจอดภายในบริเวณวัด จากนั้น ได้เดินเข้ามาภายในพระอุโบสถ และได้บังอาจใช้ไขควงงัดตู้บริจาคเงินของวัด และลักเอาเงินภายในตู้บริจาคไปประมาณ 5,000 บาท จากนั้น คนร้ายจึงได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.เมืองปทุมธานีก็ได้ไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายได้เข้ามางัดตู้บริจาคเมื่อวันที่ 3 ส.ค.67 ซึ่งในวันนี้ก็ได้ตามจับกุมผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้จากการตรวจสอบประวัติพบว่าเคยต้องโทษคดีงัดตู้บริจาคมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่เข็ด
ส่วนนายสุดใจ อายุ 51 ปี(ผู้ต้องหา) สารภาพว่าที่ตนเองทำลงไปเพราะต้องการเงินไปจ่ายค่างวดรถและใช้จ่ายเพราะตอนนี้ตนเองตกงาน และคิดว่าสักวันหนึ่งคงถูกตำรวจจับแน่ๆ และเคยเป็นตัวประกอบในหนังมาช่วงหนึ่ง