เมื่อวันที่ 21 พ.ค.67 พ.ต.อ.ธีรยุทธ เสรีนนท์ชัย ผกก.สภ.หนองเสือ พ.ต.ท.เผด็จ กระแตวงศ์ รอง ผกก.สส.สภ.หนองเสือ ,พ.ต.ท.อภิรัฐ ขานไข สว.สส.สภ.หนองเสือ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.หนองเสือได้ร่วมกันจับกุมนายพิพัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) ชาวบ้าน หมู่ 4 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และนายวิศรุต (ขอสงวนนามสกุล) ชาวบ้านหมู่ 4 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ต่อเนื่องนำตรวจปัสสาวะ รพ.หนองเสือ หมู่ 6 ต.บึงบา อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี พร้อมของกลาง1.เหล็กกล่อง ขนาดความยาว 200 ซม. จำนวน 88 ท่อน 2.เหล็กกล่อง ขนาดความยาว 100 ซม. จำนวน 70 ท่อน 3.ป้ายโครงเหล็ก ขนาด 100×200 ซม. จำนวน 7 โครง 4.แผ่นป้ายผ้าไวนิลแจ้งเตือนอุบัติเหตุ หรือบอกทาง จำนวน 7 แผ่น 5. รถยนต์กระบะแบบ 4 ประตู คันสีฟ้าประตูสีดำ คันทะเบียน ภร หมวด กรุงเทพมหานคร 6. รถยนต์กระบะแบบแคบ สีน้ำตาล ทะเบียน หมวดกรุงเทพมหานคร
ด้านพ.ต.อ.ธีรยุทธ เสรีนนท์ชัย ผกก.สภ.หนองเสือ กล่าวว่าวันที่ 20 พ.ค.67 มีเจ้าหน้าที่จาก อบต.บึงบา เข้าร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ธัญสิษฐ์ บัวพันธุ์ สว.(สอบสวน) ฯ แจ้งว่าเมื่อวันที่ 16 พ.ค.67 ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบคนร้ายซึ่งไม่ทราบเป็นใคร จำนวนเท่าใด ขับรถยนต์กระบะแบบ 4 ประตูคันสีน้ำเงินประตูสีดำ ไม่ทราบเลขทะเบียน ก่อเหตุลักป้ายเตือนอุบัติเหตุ ป้ายบอกทาง ที่ใช้หรือมีไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ ติดตั้งไว้ในพื้นที่ ต.บึงบา อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นทรัพย์สินของ อบต.บึงบา ทำให้ได้รับความเสียหาย จึงมาร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับคนร้ายที่ก่อเหตุ ลักป้ายไปหลังรับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบและได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน ทำการสืบสวนติดตามคนร้ายให้จงได้ ชุดจับกุมจึงทำการสืบสวนหาข่าวติดตามคนร้าย และตรวจดูภาพกล้องวงจรปิดสถานที่ก่อเหตุและเส้นทางหลบหนีต่อมาเมื่อวันที่ 21 พ.ค.67 การสืบสวนมีความคืบหน้าทราบเบาะแสแหล่งที่อยู่ของรถยนต์กระบะ 4 ประตูสีน้ำเงินคันที่ใช้ก่อเหตุ จึงได้สืบสวนติดตามที่บ้านพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พบรถยนต์กระบะ 4 ประตูสีน้ำเงินคันประตูสีดำใช้ก่อเหตุจอดอยู่บ้าน โดยมีนายพิพัฒน์หรือยะ (ขอสงวนนามสกุล)รับเป็นผู้ครอบครอง ชุดจับกุมโดย พ.ต.ท.อภิรัฐ ขานไข สว.สส.สภ.หนองเสือ พร้อมกำลังได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจสังกัด สภ.หนองเสือ และแจ้งความประสงค์การตรวจสอบ/ตรวจค้นให้ทราบ ก่อนตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ให้ดูแล้วจึงทำการตรวจค้นตัวและสถานที่บริเวณโดยรอบ โดยให้นำพาตรวจค้นผลการตรวจค้นพบของกล่างวางกองอยู่ภายในบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ สอบถามรับว่าได้ก่อเหตุลักมาจริง จึงตรวจยึดเป็นของกลาง และได้สอบถามขยายผลผู้ร่วมก่อเหตุรับว่าได้ร่วมกับ นายวิศรุตหรือโต้ง (ขอสงวนนามสกุล) ออกตระเวนลักทรัพย์ จึงให้นำพาไปที่บ้านซึ่งอยู่ห่างกันไปประมาณ 400 เมตร เมื่อไปถึงได้พบนายวิศรุตหรือโต้งฯ อยู่บ้าน ชุดจับกุมได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจและแจ้งความประสงค์การตรวจสอบ /ตรวจค้นให้ทราบ และก่อนตรวจค้นได้แสดงความบริสุทธิ์ให้ดูแล้วจึงทำการตรวจค้นตัวและสถานที่บริเวณโดยรอบ โดยให้นำพาตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบของกลางรายที่ 2,4 ข้างต้นวางกองอยู่ภายในบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ และจากการสอบถามรับว่าได้ขับรถยนต์ ตระเวนเลาะดูป้ายทรัพย์สินของ อบต.บึงบา และได้ขับตามหลังคันของกลางที่ 5 จึงตรวจยึดเป็นของกลาง หลังจากได้ทรัพย์ได้ช่วยกันใช้เครื่องตัดแยกโครงเหล็กป้ายออกจากกันเป็นชิ้นส่วน จึงตรวจยึดไว้ประกอบการสอบสวนดำเนินคดีลักทรัพย์ นำตัวมาที่ สภ.หนองเสือ ส่วนนายพิพัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล)และนายวิศรุต (ขอสงวนนามสกุล)(ผู้ต้องหาทั้งสองคน) รับสารภาพว่าตนเองขโมยเหล็กไปนั้นเพื่อที่จะนำไปสร้างบ้าน
ด้านดร.วิสานท์ แสวงหา เลขานุการอบต.บึงบา บอกว่าด้วยอบต.บึงบาได้ป้องกกันเหตุทางถนนให้มีการขับขี่ปลอดภัยซึ่งพ่อแม่พี่น้องที่อยู่ต่างถิ่นจะได้รู้ว่าอบต.คลองเราเป็นเขตชุมชนและมีต้นไม้ริมคลองจุดตัดปากซอยต่างๆ ซึ่งเมื่อก่อนนี้เราใช้เป็นไม้อัดธรรมดาต่อมาเราก็เปลี่ยนมาใช้เป็นป้ายเหล็กเพื่อให้คงทนถาวร ซึ่งอุบติเหตุบนท้องถนนก็ลดลงซึ่งตนเองขับรถก็สังเกตว่าป้ายเตือนภัยหายไปไหนซึ่งเราก็ให้เจ้าหน้าที่ออกหาข้อมูลและได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ซึ่งป้ายของเรามีประมาณ 200 ป้ายและต้องถูกคนร้ายขโมยแน่นอนซึ่งเราก็ได้ประสานกับทางสภ.หนองเสือให้ช่วยติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดี และก็ใช้เวลาไม่นานทางเจ้าหน้าที่สืบสวนสภ.หนองเสือก็ได้ติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีได้