เมื่อวันที่ 1 ก.พ.67 พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.วิษณุรักษ์ พรหมเมศร์ รองผบก.จ.ปทุมธานี รักษาราชการแทนผู้กับกับสถานีตำรวจภูธรคลองหลวง พ.ต.อ.กานตภณ วรรณา ผกก.สภ.คูคต พ.ต.ท.สิรภพ บัวหลวง สารวัตรสืบสวน (หน.ชุด ศปจร.สภ.คลองหลวง),พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.คูคต เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.คลองหลวง พ.ต.ต.มนตรี คงอาจ สารวัตรป้องกันปราบปรามสภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.คูคต เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.คลองหลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.ปากคลองรังสิต ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมคนร้ายลักทรัพย์ ลักรถยนต์และลักรถจักรยานยนต์ได้ของกลางรถจักรยานยนต์จำนวน 5 คัน รถยนต์ยี่ห้อนิสันหมายเลขทะเบียน วบ 9597 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน พร้อมทั้งอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์
ด้าน พล.ต.ต.ยุทธนา จอนขุน ผบก.จ.ปทุมธานี กล่าวว่าตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติโดย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร.. พล.ต.อ.ธนา ชูวงษ์ รอง.ผบ.ตร. ได้เร่งรัดขับเคลื่อนการปราบปราม การกระทำความผิดอาญาในลักษณะต่างๆ เพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินให้กับประชาชนอย่างจริงจัง โดยให้บูรณาการกำลังทุกฝ่ายพร้อมกับหน่วยงานในทุกกองบัญชาการซึ่งทางตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานีได้ขอแถลงผลการปฏิบัติบกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์รถยนต์ รถจักรยานยนต์ และรับของโจร จำนวน 5 ราย 1.จับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 รายนายธนพล หรือพัด อายุ 30 ปี ข้อหา “ ร่วมกันลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม
”ของกลาง 1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125ไอ สีน้ำเงิน,แดง ทะเบียน 5ขญ 3171 กทม.(รถที่ใช้ในการก่อเหตุ) 2.เสื้อผ้าที่สวมใส่ในการก่อเหตุ 3.โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อเรียลมี ด.ช นัย อายุ 14 ปี อยู่ ม.6 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ข้อหา “ ร่วมกันลักทรัพย์ ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม ” พร้อมด้วยของกลาง 1.เสื้อผ้าที่สวมใส่ในการก่อเหตุ พฤติการณ์กล่าวคือ ด้วยเมื่อวันที่ 22 ม.ค.67 คนร้ายได้ก่อเหตุลักทรัพย์ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีน้ำเงิน ทะเบียน 1กข 584 ปทุมธานี เหตุเกิดที่บริเวณที่จอดรถจักรยานยนต์ ริมคลองหนึ่ง ด้านหลัง MT คอนโด ม.13 ต.คลองหนึ่ง ฯ และ วันที่ 24 ม.ค.67 คนร้ายได้ก่อเหตุลักทรัพย์ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ สีแดง ทะเบียน ขธง 606 พระนครศรีอยุธยา เหตุเกิดที่บริเวณ ม.13 ซอยเทพกุญชร 33 ต.คลองหนึ่ง ฯ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ารถจักรยานยนต์ทั้งสองคันไม่ได้ล็อคคอรถ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุและตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้ง 2 คัน พบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุลักทรัพย์เป็นชาย จำนวน 2 คน ซึ่งมีลักษณะรูปพรรณที่อ้วน ทั้ง 2 คน โดยใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ125ไอ สีน้ำเงิน,แดง ขอบล้อสีทอง ลักษณะแต่งซิ่งในการก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ศปจร. สภ.คลองหลวง ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและทำการสืบสวนหาข่าวจนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุคือ นายธนพล หรือพัด อายุ 30 ปี ทำงานขายเสื้อผ้าเด็กอยู่ภายในตลาดโรงเกลือ เขต สภ.พระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้นำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ และซุ่มดูอยู่ระยะหนึ่ง จนพบนายธนพล หรือพัด ฯ ผู้ต้องหาที่ 1 ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125ไอ สีน้ำเงิน,แดง ทะเบียน 5ขญ 3171 กทม.
ซึ่งมีลักษณะรูปพรรณคนและรถตรงกับที่ใช้ในการก่อเหตุ มาจอดที่บริเวณหน้าร้านกาแฟ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้แสดงตัวเข้าทำการจับกุม สอบถาม นายธนพล หรือพัด ฯ ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับว่าตนเองเป็นผู้ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ภายในเขตพื้นที่ สภ.คลองหลวง ทั้ง 2 คันจริง โดยได้ร่วมกันกับ ด.ช.นัย อายุ 14 ปี ผู้ต้องหาที่ 2 ซึ่งเป็นน้องที่รู้จักและพักอาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปเชิญตัว ด.ช. นัย พร้อมผู้ปกครอง มายังพื้นที่ สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากการสอบถาม นายธนพล หรือพัดฯ ผู้ต้องหาที่ 1 รับว่าได้ขายรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีน้ำเงิน ทะเบียน 1กข 584 ปทุมธานี และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ไอ สีแดง ทะเบียน ขธง 606 พระนครศรีอยุธยา ให้กับผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ อบต โต้ง ในราคา 4,000 บาท และ 6,000 บาท โดยตกลงรับซื้อและได้โอนเงินค่ารถจักรยานยนต์
อีกคดีจับกุมผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์/รับของโจร รถยนต์ จำนวน 3 ราย1.นายยา ซีนอายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมาร์ข้อหา “ มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เเละขับเสพ , ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต ”ของกลาง 1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวน 7 เม็ด 2. รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีดำ ทะเบียน ลพธ 638 กทม.(รถที่ใช้ในการก่อเหตุ) 3. ดอกเหล็กปลายแหลม จำนวน 1 อัน 4. เสื้อผ้าที่สวมใส่ในการก่อเหตุ2. นายกฤษณะ หรือกิต อายุ 27 ปี กล่าวหา “ รับของโจร ” ของกลาง “รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีฟ้า-ดำ ทะเบียน วบ 9597 กทม.”3. นายธนายุทธ หรือแน็ต อายุ 24 ปี กล่าวหา “ รับของโจร ”4. นายอัศวกรณ์ หรือเอ้ รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ
พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 29 ม.ค. 67 เจ้าพนักงานตำรวจ สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งจาก น.ส.อุไรพร อายุ 39 ปี แจ้งว่ามีคนร้ายเป็นชาย จำนวน 2 คน ได้ร่วมกันก่อเหตุลักทรัพย์รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีฟ้า-ดำ ทะเบียน วบ 9597 กทม. เหตุเกิดเมื่อวันที่ 29 ม.ค.67 เวลาประมาณ 03.30 น. เหตุเกิดที่บริเวณอู่ซ่อมรถยนต์ ไม่มีเลขที่ ซอยทางเข้ามัสยิดแก้วนิมิต ม.4 ต.คลองหนึ่งฯ ตาม ปจว. สภ.คลองหลวง ข้อ 6 ลงวันที่ 29 ม.ค.67 เวลา 10.04 น. ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด ศปจร.ได้ทำการจับกุมตัว นายยา ซีน อายุ 40 ปี สัญชาติเมียนมาร์ ในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า หรือเมทแอมเฟตามีน) ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย , เเละขับเสพ , ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยนายยา ซีนฯ รับว่าได้ร่วมกับ นายอัศวกรณ์ หรือเอ้ หรือฟารุต อายุ 32 ปี ก่อเหตุลักทรัพย์ด้วยกันและได้ขับรถยนต์หลบหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างออกหมายจับและติดตามตัวต่อไป
วันนี้ (31 ม.ค.67) เวลาประมาณ 13.30 น. เจ้าพนักงานตำรวจได้ตรวจสอบพบผู้ใช้บัญชีเฟสบุ๊ค ชื่อ อ่าว กิต โพสน์ประกาศในเพจ ห้องซื้อ-ขาย NISSAN SUNNY B14 SOCIETY ข้อความว่า “ขออนุญาต Admin ครับแยกอะไร Nissan B14 ทุกชิ้น สนใจทักเลย พร้อมภาพถ่ายรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีฟ้า-ดำ ทะเบียน วบ 9597 กทม. จากการตรวจสอบ ทราบชื่อผู้ใช้คือนายกฤษณะ หรือกิต อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ทำการปลอมตัวล่อซื้อรถยนต์คันดังกล่าว และพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่ภายในอู่รถของนายกฤษณะ หรือกิตฯ ที่ ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และได้ทำการตรวจยึด รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อนิสสัน สีฟ้า-ดำ ทะเบียน วบ 9597 กทม. ส่งพนักงานสอบสวน
ในเวลาต่อมาสอบถามนายกฤษณะ หรือกิตฯ รับว่าได้ซื้อรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวมาจาก นายธนายุทธ หรือแน็ต อายุ 24 ปี ในราคา 14,500 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปพบ นายธนายุทธ หรือแน็ตฯ โดย นายธนายุทธ หรือแน็ตฯ รับว่าได้ขายรถคันดังกล่าวไปจริง โดยตนเองได้ซื้อรถยนต์คันดังกล่าวมาจาก นายอัศวกรณ์ หรือเอ้ฯ โดยตนเองได้เปิดเพจเฟสบุ๊คในการรับซื้อขายรถ โดยได้รับซื้อมาจาก นายอัศวกรณ์ หรือเอ้ฯ ในราคาคันละ 10,000 บาท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัว นายกฤษณะ หรือกิตฯ และ นายธนายุทธ หรือแน็ตฯ มายังที่ทำการพนักงานสอบสวน และได้จัดทำบันทึกการตรวจยึดพร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง
อีกคดีตำรวจชุดสืบสวน สภ.คูคต ได้รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์ในช่วงเดือนมกราคม 2567 มีหลายคดีที่คนร้ายจำนวน 2 คน มีตำหนิรูปพรรณและพฤติการณ์เหมือนกันในการก่อเหตุ จึงได้ทำการสืบสวนติดตามหลักฐานภาพกล้องวงจรปิด พฤติกรรมของ 2 คนร้ายนี้จนกระทั่งสืบทราบว่า คนร้ายทั้งสองได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่หอพักแห่งหนึ่งใน อ. องครักษ์ จ.นครนายก จึงเข้าทำการตรวจสอบ และพบผู้ต้องหานายทัศนัย หรือทัศ (ขอสงวนนามสกุล) และ นายชนินทร หรือตั้ม (ขอสงวนนามสกุล) ทั้งสองให้การยอมรับว่าได้ร่วมกันก่อเหตุ ลักทรัพย์ในพื้นที่ สภ.คูคต1. ลักทรัพย์ (รถจักรยานยนต์) ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นอาร์- 15 สีเทา ที่อพาร์ทเมนท์ ภายในซอยลำลูกกา 3ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 672. ลักทรัพย์ งัดแงะห้องพักเข้าไปเอาทรัพย์สินของประชาชน ที่หอพักภายในซอยลำลูกกา 7 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 67 ตรวจยึดของกลางหลายรายการได้จากห้องพักของผู้ต้องหา3. ลักทรัพย์ (รถจักรยานยนต์) ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีน้ำเงิน-ดำ ที่ อพาร์ทเมนท์ ภายในซอยลำลูกกา 11 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 67 ตรวจยึดของกลางได้จากจุดที่ผู้ต้องหานำรถฯไปชุกซ่อนไว้ บริเวณริมถนน ในชุมชนบึงชำอ้อ อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานีเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมผู้ต้องหา ในความผิดฐาน ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถานในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองทรัพย์ หรือรับของโจร พร้อมตรวจยึดทรัพย์สินของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คูคตเพื่อดำเนินคดีงต่อไปพร้อมกันนี้มาถึงพี่น้องประชาชนที่ใช้รถจักรยานยนต์ให้มีการล็อครถจักรยานยนต์มากกว่า 1 ตำแหน่งเช่นดิสเบรก ล๊อคโซ่ ขนาดคิดว่ามันเป็นการเสียเวลาแต่การเสียเวลาเพียงน้อยนิดอาจจะทำให้ทรัพย์สินของท่านไม่ถูกคนร้ายมาโจรกรรมไปได้และนอกจากนี้ยังฝากถึงพี่น้องประชาชนอีกด้วยว่าจอดรถจักรยานยนต์ควรนำกุญแจออกทุกครั้ง