โดยปวีณา ประสาน อธิบดีกรมการกงสุล และสถานทูตไทยในเมียนมาให้การช่วยเหลือ แต่ระหว่างรอส่งตัวกลับที่เมืองป๊อก 3 สาวรอไม่ไหวหนีออกมาถูกรถรับจ้างจับตัวไปขังที่กระท่อมปลายนา 5 วันซ้อมทำร้าย จะใช้มีดดาบฟันคอ เรียกค่าไถ่ตัว 5 ล้านบาท พอมีโอกาสจึงหนีเข้าป่าและมีพลเมืองดีช่วยพาเข้าแจ้งตร. ก่อนจะถูกตร.เมียนมาดำเนินคดีข้อหา หลบหนีเข้าเมือง ถูกคุมขังอยู่ 3 เดือนเพื่อรอศาลตัดสิน เพิ่งได้กลับบ้านวันนี้เข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์
วันที่ 9 พ.ย. เวลา 14.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี เดินทางไปสภ.แม่สาย จ.เชียงราย พาแม่สาวไทยไปรับลูกสาวที่ถูกหลอกไปค้าประเวณีที่ประเทศเมียนมา พร้อมเพื่อนอีก 2 คน รวมทั้งหมด 3 คน อายุ 22 ปี 35 ปี และ 41 ปี ที่ร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือมายังมูลนิธิปวีณาฯ
สืบเนื่องจากช่วงเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้เป็นแม่ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา แจ้งว่า น.ส.ใหม่ (นามสมมุติ) ลูกสาวอายุ 22 ปี หลงเชื่อโฆษณาในติ๊กต็อก ชักชวนไปเที่ยวที่เชียงตุง ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 18 พ.ค.66 แต่เมื่อเดินทางไปกลับถูกส่งไปที่เมืองหนึ่ง ถูกยึดพาสปอร์ต และเอกสารต่างๆ ให้เซ็นเอกสารรับสภาพหนี้ และถูกบังคับให้ค้าประเวณีทันที ถ้าไม่ทำก็จะถูกซ้อมทำร้าย โดยก่อนเดินทางไปแม่ไม่รู้มาก่อน ลูกเพิ่งติดต่อมาทางญาติแจ้งขอความช่วยเหลือ
นอกจากนี้ญาติของหญิงสาวอีก 2 คน อายุ 35 ปีและ 41 ปี ที่เป็นพนักงานบัญชี และเป็นเพื่อนกันก็ได้ร้องขอความช่วยเหลือมายังปวีณา แจ้งว่า 2 สาวถูกเพื่อนหลอกชักชวนไปเที่ยวเชียงตุงในช่วงลางานพักร้อน แต่เมื่อไปถึงกลับถูกส่งตัวไปที่เมืองป๊อก บังคับให้ค้าประเวณี จึงขอให้มูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย
หลังรับเรื่อง นางปวีณา ได้ประสาน นายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล สถานทูตไทยในเมียนมา และตำรวจเมียนมาได้บุกเข้าไปให้การช่วยเหลือหญิงสาว 2 คนที่เมืองป๊อก และไปช่วยเหลือน.ส.ใหม่ ที่เมืองหนึ่ง ก่อนจะตัวทั้ง 3 คน มารอส่งกลับที่เมืองป๊อก โดยนางปวีณา ได้ให้ทั้ง 3 คนอยู่ที่นั่นก่อนเพื่อความปลอดภัย และรอการประสานงานของเจ้าหน้าที่ไทย เมียนมาซึ่งต้องใช้เวลา แต่ 3 สาวใจร้อนเพราะกลัวทางร้านจะมาเอาตัวกลับไปจึงตัดสินใจพากันนั่งรถรับจ้าง รถจักรยานยนต์ 5 คันเพื่อที่จะให้มาส่งที่ท่าขี้เหล็กและข้ามฝั่งมาไทย แต่รถรับจ้างกลับพาไปเมืองแพรก จับไปกระท่อมปลายนาเรียกค่าไถ่ 3 คน รวม 5 ล้านบาท และซ้อมทำร้ายอยู่ 5 วัน พอมีโอกาสทั้ง 3 คนก็ได้หลบหนีเข้าป่าและมีพลเมืองดีพาเข้าแจ้งความ ถูกตำรวจเมียนมาดำเนินคดีข้อหา หลบหนีเข้าเมือง ส่งมาคุมขังที่เมืองแพรค
แม่น.ส.ใหม่ ไม่มีเงินที่จะเสียค่าปรับ 4,000 บาทให้กับลูก ทางมูลนิธิปวีณาฯ จึงให้การช่วยเหลือส่งเงินไปให้ ระหว่างถูกดำเนินคดีและรอศาลตัดสินทั้ง 3 สาว ต้องถูกคุมขังเป็นเวลานานถึง 3 เดือน ก่อนจะได้รับการส่งตัวกลับไทย
วันนี้นางปวีณา ได้รับการประสานจาก พ.ต.อ.เขมชาติ วัฒนนภา ผกก.ตม.เชียงราย ว่ามีหญิงสาว 3 ราย ที่มูลนิธิปวีณาฯ ให้การช่วยเหลือจะเดินทางกลับจึงพาแม่เดินทางมารับลูกและเพื่อนรวม 3 คน ที่สภ.แม่สาย โดยมี พ.ต.อ.พิพัฒน์ นาระเดช ผกก. สภ.แม่สาย มอบหมาย พ.ตท.นเรศ โปเล็ม สว.สอบสวน นายโสภณ แก้วล้อมเพชร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวปฏิญญา คงอาวุธ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดเชียงราย ร่วมกันสอบปากคำทั้ง 3 คน เพื่อคัดแยกเหยื่อค้ามนุษย์
นางปวีณา กล่าวว่า จากนี้ทั้ง 3 คนจะเข้าสู่กระบวนการคัดแยกเหยื่อหากเข้าข่ายค้ามนุษย์จะได้รับเงินเยียวยา โดยระหว่างนี้ทั้ง 3 คนจะอยู่ในความดูแลของมูลนิธิปวีณาฯ และนางปวีณา จะประสาน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อพาทั้ง 3 คนไปพบ และไป พล.ต.ต.ศารุติ แขวงโสภา ผบก.ปคม. และสอบสวนเพื่อติดตามจับกุมขบวนการค้ามนุษย์มาดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ขอฝากเตือนคนไทยที่คิดจะไปทำงานในต่างประเทศ หรือหากถูกชักชวนไปเที่ยวก็ตาม ขอให้ตรวจสอบข้อมูลจากราชการให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงแรงงาน กระทรวงการต่างประเทศ หรือ มูลนิธิปวีณาฯ ก็ได้ เพื่อจะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อ หากหลงเชื่อเดินทางไปอาจถูกกักขัง ซ้อมทำร้าย บังคับทำงานผิดกฎหมาย และบังคับค้าประเวณี บางคนถึงกับเอาชีวิตไม่รอดก็มี ซึ่งในบางพื้นที่ของต่างประเทศยากแก่การช่วยเหลือเจ้าหน้าที่อาจจะช่วยเหลือไม่ได้ทุกคน.