วันที่ 23 ส.ค.66 แม่สุดทนพาลูกชาย 4 ขวบ ร้อง “ปวีณา” พ่อคลั่งยาบ้าโมโหลูกร้องไห้เอาบุหรี่จี้ทั่วใบหน้าลูก แม่เข้าช่วยถูกซ้อมเตะที่ใบหน้าฟันหัก 2 ซี่ ระบมทั่วตัว แม่ถูกซ้อมเป็นประจำ หลังเกิดเหตุพ่อใจร้ายหลบหนี หวั่นย้อนกลับมาทำร้ายสองแม่ลูก “ปวีณา” ประสาน ผกก.สน.มีนบุรี พาเข้าแจ้งความติดตามจับกุมตัวดำเนินคดีโดยเร็วนางป๊อบ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี ผู้เป็นแม่ แจ้งว่า อยู่กินกับนายเอ้ (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี สามี มีลูกด้วยกัน 1 คน คือ ด.ช.วิน วัย 4 ขวบ ที่ผ่านมานายเอ้เป็นคนดี ขยันทำมาหากิน ระยะหลังนายเอ้หันไปเสพยาเสพติดและเริ่มมีอาการฉุนเฉียว เกรียวกราด ด่าลูกเมียใช้กำลังทำร้ายเป็นประจำ เวลาเห็นลูกถูกตีตนเข้าไปช่วยก็ถูกทำร้ายไปด้วย เมื่อสัปดาห์ก่อนลูกถูกเสี้ยนตำเท้าเเล้วร้องไห้ไม่หยุด นายเอ้โมโหหนักใช้บุหรี่จี้ตามใบหน้าของลูก ซึ่งตอนนั้นตนไม่อยู่บ้านกลับมาเห็นสภาพลูกน่าสงสารมาก เมื่อถามว่าใครทำลูกก็ไม่กล้าบอกเพราะอยู่ต่อหน้าพ่อ ถัดมาอีกวันลูกจึงบอกความจริง จากนั้นตนได้เข้าไปต่อว่านายเอ้ทำไมถึงต้องทำกับลูกขนาดนี้ นายเอ้โมโหลุกขึ้นมาเตะเข้าตามลำตัวตนหลายครั้งและต่อยหน้า เตะหน้าตนจนฟันหน้าหัก 2 ซี่ ได้รับบาดเจ็บสะบักสะบอม ญาติที่อยู่บริเวณใกล้เคียงเข้ามาช่วยห้ามปรามเพราะกลัวตนจะตาย นายเอ้จึงหยุดทำร้ายตนกับลูกและหลบหนีไป ทุกวันนี้ลูกมีอาการหวาดผวา แค่พูดถึงชื่อพ่อก็ตัวสั่นกลัวมาก ตอนนี้ไม่รู้ว่านายเอ้ไปอยู่ที่ไหน กลัวว่าจะย้อนกลับมาทำร้ายตนกับลูกอีก ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือ ต้องการดำเนินคดี และขอแยกทางกันอย่างเด็ดขาด หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้ประสาน พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี มอบหมายให้ นายเอกภาพ หงสกุล ผู้อำนวยการ มูลนิธิปวีณาฯ พาแม่และเด็ก ผู้เสียหาย เข้าพบ พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายเอ้ (นามสมมุติ) และส่งตัวสองแม่ลูกตรวจร่างกาย ตามจับกุมนายเอ้มาดำนินคดีตามกระบวนการยุติธรรม และมูลนิธิปวีณาฯจะติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป.