เมื่อเวลา 16.00น.วันที่ 30 กรกฎาคม2565 ที่บริเวณลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายศุภกฤษ มานิ่ม ประธานชมรมกล้วยแดงสยามแห่งประเทศไทยเป็นประธาน “รวมพลคนรักกล้วยแดงสยาม”โดยมีผู้ที่ชื่นชอบกล้วยด่างไทย“กล้วยด่างแดง” จากสวนต่างๆนำต้นกล้วยด่างจากทั่วทุกภาคของประเทศไทยเข้าร่วมโชว์และจำหน่ายภายในงานเป็นจำนวนมาก พร้อมกับมีการประกวดกล้วยแดงสยาม
นายศุภกฤษ มานิ่ม ประธานชมรมกล้วยแดงสยามแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า กระแสความนิยมการเพาะพันธุ์กล้วยด่างแดง ยังคงพุ่งสูงสวนกระแสเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หลังผู้เพาะเลี้ยงไทยได้พัฒนาสายพันธุ์จนเกิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่อว่า “กล้วยแดงสยาม” (Musa Siam ruby) มีสีสันและลวดลายที่สวยงามโดดเด่นมากกว่าพันธุ์พื้นเมืองดั้งเดิม ทำให้กล้วยด่างแดงสยาม กลายเป็นสายพันธุ์ที่หายาก เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก แม้กระทั่งในประเทศอินโดนีเซีย ต้นกำเนิดกล้วยด่างแดง ได้กลายเป็นหนึ่งในตลาดหลัก ที่มีการนำเข้า “กล้วยแดงสยาม” จากไทยที่มีมูลค่ามากที่สุดรองจากญี่ปุ่น ที่ผ่านมาสมาชิกของชมรมฯ หลายฟาร์ม ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ได้ร่วมมือและใช้พยายามอย่างหนักที่ยกระดับมาตราฐานกล้วยแดงสยาม โดยร่วมกันพัฒนาสายพันธุ์กล้ายด่างแดง จนได้ “กล้วยแดงสยาม” ที่มีความสวยงามจนมีชื่อเสียงในระดับโลก ส่วนลักษณะและความพิเศษของสายพันธุ์ของกล้วยแดงสยาม ที่แตกต่างจากกล้วยด่างแดงทั่วไป คือ กล้วยแดงสยามนั้นสามารถพัฒนาลวดลายที่สวยงามได้ตลอดเวลาจากแม่พันธุ์ กระตุ้นให้มีความต้องการในลวดลายที่แปลกใหม่อยู่เสมอ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้กระแสตอบรับกล้วยแดงสยามยังคงพุ่งแรงสดใส สวนสภาวะเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศนั้น
นอกจากนี้สีสันที่ปรากฏอยู่บนใบ ยังทำให้กล้วยแดงสยามเป็นไม้มงคล ที่เชื่อกันว่าจะช่วยเสริมบารมีและความมั่งคั่งให้กับผู้ที่ครอบครองอีกด้วย โดยสีแดงหมายถึงสีแห่งความสุข โชคลาภ และความสำเร็จ สีเขียวสื่อถึงความมั่งคั่งและเงินทอง และสีทองแทนสีแห่งจักรพรรดิและอำนาจ บารมี ล่าสุดชมรมฯ อยู่ระหว่างการดำเนินขอจดทะเบียนพันธุ์พืชใหม่ กับกรมวิชการการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และจดทะเบียนทะเบียนพันธุ์พืชใหม่และความคุ้มครองในต่างประเทศ โดยคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปีนี้
นายศุภกฤษ บอกด้วยว่า จากการรวบรวมมูลค่าการซื้อขายกล้วยแดงสยามของสมาชิก ในแต่ละเดือนมีการซื้อ-ขายไม่น้อยกว่า 450 ล้านบาท และมีการส่งออกราว 100 ล้านบาท โดยมีตลาดใหญ่คือ ประเทศญี่ปุ่น อินโดนีเซีย จีน และเริ่มขยายไปยังอเมริกาและยุโรป ทั้งนี้ ยังมีคำสั่งซื้อที่รอการส่งมอบอีกจำนวนมาก เนื่องจากปริมาณกล้วยแดงสยามระดับคุณภาพดี ยังมีไม่เพียงพอกับความต้องการ ทางชมรมฯ จึงอยากสนับสนุนให้ผู้ที่รักกล้วยด่าง หมั่นดูแลเอาใส่ใจ คัดสายพันธุ์คุณภาพ เชื่อว่า นอกจากความเพลินเพลินที่จะได้รับแล้ว ยังสามารถสร้างรายได้ บางรายกลายเป็นอาชีพหลักเลี้ยงดูครอบครัวได้
ขณะที่วันเดียวกันนี้มีการทำบายศรีพญานาค ที่ทำจากใบกล้วยแดงสยามที่ได้ใบมาจากสมาชิกในกลุ่ม ที่มอบให้ผู้จัดทำทำขึ้นเพื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอให้งานราบรื่นปราศจากฟ้าฝนใช้เวลา2วัน1คืนในการทำ และถือเป็นบายศรีพญานาคที่แพงที่สุดในขณะนี้ที่ยังไม่สามารถคิดเป็นมูลค่าได้
จะไม่พลาดข่าวสำคัญ ติดตามผลงานอ่านข่าวได้ที่
https://www.facebook.com/groups/www.songkhaodedthailand
https://www.facebook.com/SONGKHAODEDTHAILAND
https://www.youtube.com/channel/UCWTu07cP_-GNgtULQWtA8qg