ราชทัณฑ์ แจงทุกกรณีเพื่อสร้างความเข้าใจ
เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ – พร้อมติดตามข้อเท็จจริงจากกรมราชทัณฑ์
วันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม 2564 เวลา 11.00 นาฬิกา นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์
และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมราชทัณฑ์ ขอรายงานสถานการณ์ และการควบคุมดูแลตัวผู้ต้องขังที่เป็นกลุ่มผู้ชุมนุมที่ออกมาเรียกร้องทางการเมือง เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้
กลุ่มผู้ชุมนุมทางการเมืองที่ติดเชื้อโควิด- 19 ที่ถูกส่งตัวเพื่อเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์
จำนวน 3 คน ประกอบด้วย นายพรหมศร หรือฟ้า นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน และนายสิริชัย
หรือนิว โดยแพทย์ประจำทัณฑสถานโรงพยาบาสราชทัณฑ์ได้เข้าตรวจร่างกาย พบว่า นายพริษฐ์ฯ ไม่มีไข้
หายใจปกติ สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ปกติ สัญญาณชีพและค่าออกซิเจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ แพทย์ให้การรักษาด้วยยา Favipiravi ร่วมด้วยกับยาพ่นโรคประจำตัวและยารักษาตามอาการ ในส่วนของนายสิริชัยฯช่วยเหลือตัวเองได้ หายใจปกติ ไม่ไอ ไม่มีไข้ ไม่มีอาการหอบเหนื่อย มีอาการปวดตามเมื่อยตามตัว รับประทานอาหารได้ปกติ สัญญาณชีพและค่าออกซิเจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ แพทย์ให้การรักษาตัวยยา Favipiravir และยารักษา
ตามอาการ และนายพรหมศรฯ รู้สึกตัวดี ช่วยเหลือตัวเองได้ หายใจปกติ อาการไข้ลดลง มีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น
ไอมีเสมหะ สัญญาณชีพและค่าออกซิเจนอยู่ในเกณฑ์ปกติ แพทย์ให้การรักษาด้วยยา Favipiravir และยารักษา
ตามอาการ โดยทั้ง 3 คน ได้รับการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้ชิด
จำนวน 4 คน ประกอบด้วย นายภาณุพงศ์ หรือไมค์ นายชาติชาย นายณัฐชนน และนาย
Sam Samart หรือ แซม โดยเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2564 พยาบาลเรือนจำฯ เบิกตัวผู้ต้องขังทั้ง 4 คนลงจากห้องเพื่อเอกชเรย์ปอดในพื้นที่ปลอดเชื้อ พร้อมทำการวัดอุณหภูมิสัญญาณชีพ และค่าออกซิเจน โดยผล
การตรวจทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์ปกติ สามารถรับประทานอาหารได้ มีการสนทนา พูดคุยกันเป็นปกตินอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมอยู่ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง จำนวน 3 คน ได้แก่นายอานนท์ นายจตุภัทร์ และนายเวหา ได้ตรวจสุขภาพทั้งหมดสัญญาณชีพ
และค่าออกซิเจนอยู่ในกณฑ์ปกติ ด้านนางสาวปนัดดา ถูกควบคุมตัวที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษหญิง
จากการตรวจสุขภาพของพยาบาลเรือนจำฯ พบว่า อุณหภูมิ ค่าชีพจร และค่าออกซิเจนทั้งหมดอยู่ในเกณฑ์
ปกติเช่นกัน
เข้าเยี่ยมนายภาณุพงศ์ฯ และพวกรวม 4 คนนั้น เนื่องจากช่วงเวลาที่ทนายความเข้ามาติดต่อ ทางเรือนจำฯ ได้คัดกรอง
ผู้ต้องขังที่ ติดเชื้อโควิด- 19 และกำลังเอกชเรย์ปอดผู้ต้องขัง รวมทั้งนายภาณุพงศ์ฯ และพวกรวม 4 คน เนื่องจากเป็นผู้ต้องขังเสี่ยงสูง และเป็นข้อสั่งการของ คบค.กระทรวงยุติธรรม ที่ ต้องรีบคันหาเชื่อโดยเร็วเพื่อเข้ารับการรักษาและป้องกันไม่ให้เชื้อลงปอด โดยระหว่างการเอกชเรย์เจ้าหน้าที่ได้กันผู้ต้องขังอื่นอยู่บนเรือนนอนทั้งหมด ซึ่งได้แจ้งให้
ทนายความทราบในประเด็นดังกล่าวแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ได้เป็นผู้รับเอกสารขอแต่งตั้งทนายและนำไปให้
ผู้ต้องขังทั้ง 4 คนเซ็นเอกสารพร้อมส่งคืนให้ทนายเป็นที่เรียบร้อย เพื่อให้ลงนามแต่งตั้งก่อนค่อยมาขอพบลูกความในวันต่อไปส่วนกรณีที่นายอานนท์ ที่ถูกควบคุมตัวกักโรค ณ ฝ่ายปกครอง แดน 1 ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง กล่าวอ้างว่าการตอบรับลงทะเบียนข้อมูลออนไลน์ล่าช้านั้น ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ขอชี้แจงว่า
เมื่อวันศุกร์ที่ 13 สิงหาคม 2564 มีญาตินายอานนท์ฯ ลงทะเบียนในระบบออนไลน์ จำนวน 1 ราย วันที่ 14 – 15 สิงหาคม 2564 เป็นวันเสาร์และอาทิตย์ ทัณฑสถานฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบ 2 วันทำการ วันที่ 18 สิงหาคม 2564
ญาติได้ทำการซื้อของออนไลน์ จากกรณีดังกล่าวทัณฑสถานฯ ยอมรับว่า การตอบรับลงทะเบียนเป็นไปด้วยความ
ล่าช้าจริง เนื่องจากมีจำนวนญาติจากทั่วประเทศ ทั้งญาติผู้ต้องขังของทัณฑสถานฯ และญาติผู้ต้องขังจากเรือนจำ/ทัณฑสถานอื่นด้วยเนื่องจากญาติผู้ต้องขังเข้าใจว่าเรือนจำ/ทัณฑสถานไหนก็สามารถลงทะเบียนได้ และขอยืนยัน ว่าเจ้าหน้าที่หัณฑสถานฯ มิได้ทำงานแบบ WFH แต่อย่างใด เพราะได้ปฏิบัติหน้าที่ประจำ และมีเวรยามตามสถานการณ์
เฝ้าระวังโควิด-19 อย่างเต็มกำลังความสามารถ และยึดถือการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังทุกคนอย่างเท่าเทียมกันพร้อมทั้งกรมราชทัณฑ์ ขอเรียนพี่น้องประขาชนถึงกรณีการเผยแพร่ข่าวสารผ่าน Facebook และสื่อ
สังคมออนไลน์ เนื่องจากผู้ต้องขังทุกคนที่อยู่ในเรือนจำและทัณฑสถานไม่สามารถใช้โทรศัพท์หรือเครื่องมือสื่อสาร
หรือระบบออนไลน์ได้ ข้อมูลข่าวสารจากเพจต่าง ๆ
ข้อมูลที่แท้จริงได้ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ขอยืนยันว่า ข้อมูลข่าวสารที่ได้เผยแพร่เป็นข้อเท็จจริงและสามารถ
ตรวจสอบได้ จึงขอให้ประชาชนอย่ได้หลงเชื่อ และติดตามข่าวสาร ข้อเท็จจริงจากช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ของ
กระทรวงยุติธรรมและกรมราชทัณฑ์ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อไป
บุญส่ง วงค์แสง รายงาน